วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เทคนิคในการตกปลา



เทคนิคการอ่อยเหยื่อ
การตกปลาเกล็ด การอ่อยเหยื่อถือว่ามีความสำคัญมาก แต่การอ่อยเหยื่อนั้นมีเทคนิคเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่า พอถึงบ่อไม่ดูตาม้าตาเรือ ผสมอ่อยอย่างเดียวนะ การอ่อยเหยื่ออย่างผิดวิธีจะทำให้ปลาไม่กินเหยื่อ กล่าวคือ อิ่มไปเลย ไม่สนใจเหยื่อที่เราตกเลย หรือ ไม่ก็ใช้เหยื่อที่อ่อยผิดประเภทของปลา ปลาทั้งหลายเลย หนีหน้า หายไปหมดเลย การผสม เหยื่อที่จะอ่อยนั้นมีอยู่หลายอย่าง ขึ้นกับ หมายหรือประเภทปลาที่จะตกปลานั้นๆ 
  1. ใช้ รำ หรือ อาหาร ผสมน้ำให้แฉะแล้วอ่อย ใช้ได้กับน้ำนิ่ง ครั้งแรกควรอ่อยให้มาก แล้วทยอยอ่อยใหม่เมื่อปลาเริ่มไม่ ตอดเหยื่อ (แสดงว่าปลาออกไปแล้ว) 
  2. ใช้รำ หรือ อาหาร อ่อยแบบผง คือ ไม่ต้องผสมน้ำอ่อย ใช้ได้กับน้ำนิ่ง และปลาเล็กเยอะมาก เพื่อให้ปลาเล็กลอยตัวขึ้น กินเหยื่อที่อ่อย ทำให้ปลาเล็กไม่เข้าไป ตอดเหยื่อของเรา โอกาสที่ปลาใหญ่จะเข้ามาตอดเหยื่อมีมากกว่า 
  3. ใช้รำ หรือ อาหาร ผสมน้ำแล้วปั้นเป็นก้อน โตๆ ขนาด ลูกฟุตบอลขนาดเด็กเล่น ใช้ได้กับหมายที่มีลมค่อนข้างแรง และ กว้างพอสมควร แต่วิธีนี้ส่วนใหญ่จะต้องอ่อยไว้ล่วงหน้า หรือ อ่อยตอนเช้า ๆ เพราะถ้าหมายกว้าง ปลาจะเข้าช้ามาก 
  4. ใช้รำ หรืออาหาร ผสมน้ำให้เป็นผง เปียก ใช้ได้ทั่วไป อ่อยเรื่อย ทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง จนปลาเข้า ในการอ่อยเหยื่อนี้ อาจใช้เทคนิคต่างๆ ผสมผสานเข้าด้วยกันได้ และให้สังเกตุว่าอ่อยแบบไหน ปลาเข้าเร็ว ก็ให้ใช้วิธีนั้น กับ หมายนั้นๆ 
เทคนิคการตั้งทุ่น
ซึ่งจะเป็นการตกหน้าดินเท่านั้น มีอยู่เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น ง่ายๆ คือ 
  - การตั้ง สตอป-ลายน์ให้พอดีกับ ระดับน้ำ วิธีนี้ เมื่อเหยื่อตกถึงหน้าดิน ทุ่นของเราจะตั้งตรงพอดี แต่ถ้าเหยื่อตกถึงหน้าดินแล้วทุ่นนอน ก็ให้ขยับสตอป-ลายน์ ลงไปทางสายรีดเดอร์หรือลูกหมุน แต่ถ้า เหยื่อตกถึงหน้าดิน แล้
ทุ่นม ก็ให้ขยับ สตอป-ลายน์ ลงไปทางตัวรอก 
  - การตั้ง สตอป-ลานย์ ให้สูงกว่าระดับน้ำนิดหน่อย เมื่อเหยื่อตกถึงหน้าดินทุ่นจะล้มอยู่ (ทุ่นนอน) แล้วให้เราหมุนรอกเข้า มา แล้วทุ่นก็จะตั้งพอดีสังเกตุว่า สตอป-ลายน์ สูงกว่าระดับน้ำนิดเดียว คือเมื่อหมุนรอก เข้า นิดหน่อยทุ่นก็ตั้งแล้ว แต่ถ้า ต้องหมุนรอกเข้ามามาก ทุ่นถึงจะตั้งแสดงว่าสตอป-ลายน์ สูงกว่าระดับน้ำมาก ก็ขยับสตอป-ลานย์ไปทางตัวเบ็ดอีก   เทคนิคนี้ใช้สำหรับการตกแบบหน้าดินเท่านั้น แต่ถ้าท่านต้องการตกแบบทุ่นลอย ก็ต้องเปลี่ยนทุ่นให้ใหญ่ขึ้น พอที่ จะรับน้ำหนักเหยื่อได้พอดี
เทคนิคการตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว 
ควรตกปลาให้ห่างฝั่ง ไม่เกิน 3 เมตร จะดีที่สุด แต่บางแห่งบางสถานที่อาจจะตกไกลกว่านี้ก็ได้ แต่ก็ขอย้ำอีกที การตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว นั้นต้องมีความอดทน และหมั่นหาประสบการณ์ ช่างสังเกตุ เช่นเมื่อท่านเข้าไปตกปลาตามบ่อ ตกปลยต่างๆ หรือหมายธรรมชาติ ต้องสังเกตุว่า นักตกปลาที่เขาได้ปลานั่งมุมไหน แล้วใช้เหยื่ออะไร ไม่ใช่ เข้าไปก็เดินดุ่ยๆ หาหมายเอง โดยไม่ดูอะไรเลย เอาสะดวกเข้าว่า ถ้าแบบนี้ละก้อ อด !!! เพราะตามหมายต่างๆ นั้น ลักษณะความลึก ตื้น ของน้ำ หรือแม้กระทั่ง ผิวดินใต้น้ำจะไม่เหมือนกัน บางแห่งปลาไม่ชอบอยู่อาศัย หรือหากินบางแห่งจะเป็นแหล่งหาอาหารและที่อยู่ เลยหละ อ้อแล้วอย่าลืมนะ ! การตกปลาแบบนี้จะต้องอาศัยความเงียบและสมาธิมากพอสมควร นักตกปลาควรมีมรรยาทใน การตกปลาไม่ไปรบกวนนักตกปลาท่านอื่นทั้งบนบก และในน้ำ อย่าบ่นเมื่อไม่ได้ปลา ขอให้ใจเย็น และอดทน 



 เคล็ดลับน่ารู้สำหรับการตกปลาน้ำจืด
...การตกปลาเกล็ดรูปแบบหลักๆอาจคล้ายกันแต่กรรมวิธีบางอย่างอาจต่างกัน เนื่องจากสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ สภาพหมาย ต้องเรียนรู้ด้วยตนเองเท่านั้น ..ผมก็แค่แนะเป็นแนวทาง... 
..ก่อนเริ่มซื้ออุปกรณ์ มาทำความรู้จักปลาเกล็ดเสียก่อน .. 
ปลาเกมส์ตามบ่อตกปลา 
ปลาเกล็ดปลาเกมส์ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามบ่อตกปลาบ้านเราส่วนมากจะเป็น ปลานิล ปลานิลทับทิม ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สกเทศ ปลานวลจันทร์เทศ ปลาในเทศ(ปรกติเรียกเพียงแค่ ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาใน ) ปลาเฉา ปลาเล่ง ปลาซ่ง ปลาแรด ปลาเพี้ย ปลาเปคู เท่านั้น 
... ปลาเกล็ดเป็นสัตว์น้ำที่โดยทั่วไปชอบกินพืชในน้ำ ตะใคร่น้ำ ซากพืช เป็นอาหาร และอาหารพวกสิ่งมีชีวิตเล็กๆในน้ำ แมลงต่างๆ เครื่องในสัตว์คาวๆ ใส้เดือน กุ้ง หอย ไข่ปลาตัวอื่น หรือซากสัตว์ มันก็ชอบพอๆกัน  ปลาเกล็ดตามบ่อเลี้ยงทั่วๆไปจะถูกเลี้ยงด้วยอาหารประเภทหัวอาหาร รำ เศษผัก แต่ตามฟิชชิ่งปาร์คมักไม่ค่อยได้ให้อาหารมากนัก สภาพอากาศ มีผลต่อวิถีชีวิตของปลาเกล็ดมาก ปลาเกล็ดจะใวต่อสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว เสียง อุณหภูมิ คลื่นลม สภาพอากาศ สภาพน้ำ มีผลกับพฤติกรรมการกินอาหารของปลามากๆ ในการตกปลาเกล็ด เหยื่อที่เรานิยมจึงหนีไม่พ้นอาหารประเภทรำ หัวอาหาร แป้งผสมต่างๆ กุ้ง ใข่มด ใส้เดือน หนอนน้ำ ซึ่งหาได้ไม่ยาก ซึ่งขอแนะนำเหยื่อจำพวกรำผสมต่างๆ ตามสูตรใครสูตรมันเท่านั้น หรือซื้อเหยื่อปลาเกล็ดสำเร็จรูปตามร้านตกปลา ก็เป็นทางเลือกที่ดี เมื่อได้มาแล้วก็นำมานวดกับน้ำให้นุ่มหรือเกือบเหลวใช้หุ้มที่ตัวเบ็ด เรียกว่าเหยื่อนวด เพื่อใช้ตกปลาเกล็ด ซึ่งดูจะเป็นเกมส์กีฬาตกปลาที่สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย ถ้าใช้เหยื่อพวกกุ้งหรือใส้เดือน ไข่มด ปลากินไวกว่า ง่ายกว่าแน่นอน แต่มันจะหมดความท้าทาย 
            คุณสมบัติของคันเบ็ดสปินนิ่งจะมองได้ 4 ลักษณะ คือ 
            - taper ความหนาของเนื้อแบลงค์ และส่วนทำให้เกิด action ความโค้ง จากกรรมวิธีการพันวัสดุให้เป็นคันเบ็ดขึ้นมาให้เราใช้ 
            - action กำหนดความโค้งของส่วนปลายคันเบ็ด เป็นตัวบอกรู้ว่าคันตวัดได้ไวแค่ใหนจากความโค้งอ่อนตัวของคันเบ็ด เช่น แอคชั่น fast เมื่อต้องวัดคันในระยะเหยื่อไกลๆ ย่อมทำให้ขอเบ็ดฝังแรงลึก และรวดเร็วกว่าคันแอคชั่น slow (ตามรูปด้านล่างแสดงแอคชั่นต่างๆของคันเบ็ด) 
           - power lift แรงงัดของคันเบ็ด กำหนดขนาดสายเอ็นที่คันเบ็ดทนได้สูงสุดคันไม่เสียหาย 
           - responsible หรือ sensitivity การรับรู้ความรู้สึกของคันเบ็ด การสั่นสะเทือนตอบสนองให้ความรู้สึก ได้มาจากลักษณะของวัสดุที่นำมาทำคันเบ็ดและกรรมวิธีผลิตคันเบ็ด 
   **---เป็นการสรุปตามความเข้าใจของผมเองจากที่ได้อ่านมา ผิดพลาดก็ขออภัยครับ เพราะหลายสำนักให้ความเห็นไม่ตรงกัน-----** 
           วิธีเลือกใช้คันสปินนิ่ง 
          - ดูที่ความยาวที่เหมาะสมกับตัวเอง และบางครั้งต้องคำนึงถึงสภาพบ่อด้วย คันท่อนเดียวจะดีกว่าที่ความยาวไม่เกิน 7 feet (ใช้คันสองท่อนก็ดี แต่ถ้าเลือกได้มีที่เก็บพกพาไปได้ เลือกท่อนเดียวดีกว่า) 
      - ดูที่สเปคของคันกับการรับขนาดสายเอ็น ส่วนมากเลือกใช้ที่ขนาดระบุ 4 lbs. - 8 lbs. 
- ดูที่ลักษณะไกด์ และขนาดไกด์ทิปทอบตัวปลายสุดให้วงกว้าง กันใลน์สตอปเปอร์สะดุด 
- ลองทดสอบดูแอคชั่นความโค้งคัน เช่นสะบัดแรงๆ (ระวังด้วย) 
- เลือกดูความเรียวเล็กและน้ำหนักคันเบา 
- ความไวตอนคันคืนตัวตอนสะบัดทดลอง 
........ วัสดุที่ใช้ทำคันเบ็ด มันจะเป็นตัวบ่งบอกหลายๆอย่าง ตามที่กล่าวมาทั้งหมด..* 
........ สมมุติถ้าจะถามตามหลักการ แล้วเราต้องการคันเบ็ดแบบไหนกันแน่เพื่อตกปลาเกล็ดแบบสะปิ๋ว ผมคิดเอาเองว่า เราต้องการ slow action หรือที่เราคุ้นเคยว่า ultra light tackle ซึ่งคันจะมีความโค้งตั้งแต่โคนคันแบบพาราโบลิค แต่ก็ต้องมี power lift ขนาด ต่ำปานกลาง 
ซึ่งเท่าที่มีขายจะเป็นคันขนาด แอคชั่นปานกลาง 6-10 lbs. ขนาด 6-9 ฟุต จะใช้ครอบคลุมขนาดปลาบ้านเราที่สุด แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องมี การตอบสนองความรู้สึก(responsible)ของคันที่ดี หรือต้องใช้วัสดุกราไฟต์ดีๆ ไม่จำเป็น 
.... เพียงแต่อยากได้คันสปินนิ่ง ที่มีแอคชั่นแบบอุลตราไลท์ แต่ต้องมีแรงงัดขนาดแอคชั่นปานกลาง( รับขนาดสายเอ็น 6-10 lbs.test ) และคันยาวๆเพื่อส่งเหยื่อใกลๆ ..มันยุ่งยากมาก หลายคนจึงหาคันแอคชั่นโค้งทั้งคันตั้งแต่โคนคัน แต่ยาวๆ เพื่อแรงงัดสูงหน่อย มาบิวท์เป็นคันสะปิ๋ว 
......ส่วนรอกสปินนิ่ง ขนาดเดียวกับคัน คือ 4 lbs- 8 lbs. ซึ่งมีขายทั่วไปหลายคุณภาพ แค่เพียงการปรับเบรกเหมาะสม ตัวเบรกของรอกพอใช้ได้ เก็บสายได้ไว น้ำหนักตัวรอกเบา ทางเดินสายเอ็นตั้งแต่สปูนออกที่โรลเลอร์ราบรื่นไม่มีส่วนใดทำลายผิวสายเอ็นได้ แค่นี้ก็เพียงพอ รอกราคาถูกๆตัวไม่กี่บาทก็นำมาใช้งานได้กับการตกปลาเกล็ดทั่วๆไปอย่างเช่น ปลานิล ปลาตะเพียน 
แต่ถ้ามีปลาเกล็ดขนาดใหญ่ๆชุกชุมก็ขยับคุณภาพรอกเป็นระดับปานกลางได้ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนสภาพตัวเบรก(drag) ให้เนียนๆ ก็ใช้ได้ดีแล้วครับ เรื่องความแข็งแรงของตัวรอกแทบจะไม่จำเป็น ในเมื่อสายเอ็นที่ใช้กับการตกปลาเกล็ดบ่อส่วนมากอยู่ที่ 4 lbs. - 8 lbs. เฟืองขับเฟืองส่ง ในตัวรอกคุณภาพพอใช้ได้ทนทานได้สบายๆ แต่ถ้าชอบของดีมีสกุลก็ซื้อไปเถอะครับ น่าภูมิใจ ใครๆก็ชอบของมีคุณภาพ ถ้ารักจะเล่นปลาเกล็ดไปตลอด แม่นบ่ 
เทคนิคการวางเหยื่อในบ่อตกปลา สภาพพื้นบ่อจะมีลักษณะเป็นดินเลนเสียส่วนมากต่างกันเพียงแค่ระดับความลึกของบ่อ การที่เราจะตกปลาเกล็ดขึ้นมา นอกจากเลือกการวางเหยื่อนวดที่ระดับหน้าดิน และเหยื่อลอยในน้ำแล้ว ต้องทำให้ปลารู้สึกไม่ระแวงที่จะเข้ามากินอาหาร ต้องจัดปลายสายเหมาะสม สามารถแสดงให้รู้ว่าปลากำลังกินเหยื่อ เพื่อการดักวัดขอเบ็ดให้ติดปากก่อนที่ปลาจะผละหนีทิ้ง ไม่สนใจเหยื่อ ... ผมออกตัวก่อนว่าวิธีหลักๆเหล่านี้ ผมก็เรียนรู้จากนักตกปลาท่านอื่นๆและอ่านจากสื่อต่างๆมาเหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาเอง เพียงแต่ผมเรียกตามสภาพ และตามประสบการณ์ส่วนตัวผมเอง คงไม่มีใครมาตัดสินผมว่าผิด และผมคงไปตัดสินใครว่าผิดไม่ได้เช่นกันครับ ขอให้ท่านคิดพลิกแพลงเรียนรู้ทดลองด้วยตนเอง วิธีตกปลาไม่มีกฏเกณฑ์...แต่ควรมีหลักการเหตุและผลอธิบายให้เพื่อนๆเข้าใจได้ครับ
ข้อละไว้ในฐานที่เข้าใจเกี่ยวกับการผูกเงื่อนต่างๆนะครับ คิดว่าคงรู้วิธีกันแล้ว ทั้งเงื่อนผูกขอเบ็ด เงื่อนผูกลุกหมุน เงื่อนสตอปเปอร์เงื่อนผูกปลายคันชิงหลิว(ศึกษาได้จากบทความของพี่ครีบเหลือง
การวางเหยื่อเรี่ยๆหน้าดิน 
ใช้การเซททุ่นเหมือนวิธีเหยื่อกึ่งนอน เพียงแต่เปลี่ยนทุ่นใหญ่ขึ้นมานิดนึง เปลี่ยนเหยื่อนวดที่สายหลีดสั้น มาเป็นเหยื่อที่เบาๆเช่น ไข่มด กุ้ง ขนมปังชิ้นเล็กๆ หรือเหยื่อนวดก้อนเล็กมากๆประมาณเม็ดถั่ว ขอเบ็ดเบอร์เล็

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น